5 ปัจจัยที่ช่วยให้เรอัล มาดริด ย้ำชัยอีกครั้งในเอล กลาซิโก้

#SSxLaLiga | เรอัล มาดริด คว้าชัยชนะเหนือบาร์เซโลน่าได้อีกครั้ง ยังคงเป็นทีมเดียวในลีกสเปน ฤดูกาลนี้ ที่ยังไม่แพ้ใครในเกมเหย้า แถมหยุดสถิติไร้พ่ายนอกบ้านในลีกของทีมคู่ปรับตลอดกาลอีกด้วย

ศึก “เอล กลาซิโก้” ยกที่สองของฤดูกาล 2023/24 ที่สนามซานติอาโก้ เบอร์นาเบว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรอัล มาดริด พลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะบาร์เซโลน่า 3 – 2 นำเป็นจ่าฝูงของตารางต่อไป

ในเกมนี้ บาร์ซ่าขึ้นนำถึง 2 หน 1 – 0 และ 2 – 1 แต่ในช่วงเวลาไม่ถึง 20 นาทีสุดท้าย ราชันชุดขาว ยิงเพิ่มอีก 2 ประตู และนี่คือ 5 ปัจจัยที่ทำให้ทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ เก็บ 3 คะแนนที่ล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง

ฟราน การ์เซีย ตัวสำรองที่ช่วยเกมรับ

เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า ดาวเตะวัย 21 ปี ของเรอัล มาดริด ลงเล่นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กซ้าย ซึ่งต้องดวลกันโดยตรงกับลามีน ยามาล ของบาร์เซโลน่า เพื่อหยุดความแพรวพราวของปีกขวาดาวรุ่งชาวสเปนวัย 16 ปี รายนี้

อย่างไรก็ตาม คามาวิงก้า รับมือได้ไม่ดีพอ คาร์โล อันเชล็อตติ จึงตัดสินใจเปลี่ยนตัวฟราน การ์เซีย แบ็กซ้ายวัย 24 ปี ลงเล่นแทนในช่วง 20 นาทีสุดท้าย และเป็นการแก้เกมที่ได้ผล ยามาลถูกชะลอไม่ให้ทำเกมรุกได้ถนัด

บาซเกซ แทนที่การ์บาฮาลได้เป็นอย่างดี

ลูคัส บาซเกซ แบ็กขวาวัย 32 ปี ของเรอัล มาดริด ได้ลงสนามเป็นตัวจริงแทนดานี่ การ์บาฮาล และโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาให้เห็นตลอด 90 นาทีที่ปะทะกับบาร์เซโลน่า แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นที่พึ่งของทีมได้เสมอ

ผลงานเด่นในเกมล่าสุด คือการช่วยให้ทีมได้จุดโทษในครึ่งแรก และยิงประตูตีเสมอ 2 – 2 ในครึ่งหลัง ซึ่งไม่กี่วันก่อนหน้านั้น เขาคือหนึ่งในผู้สังหารจุดโทษเป็นประตู ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้

วินิซิอุส กับวิสัยทัศน์ที่นำไปสู่แอสซิสต์

วินิซิอุส จูเนียร์ ปีกวัย 23 ปี ของเรอัล มาดริด เป็นแข้งแนวรุกที่คอยสร้างปัญหาให้กับแนวรับของบาร์เซโลน่าตลอดเวลา และแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการอ่านเกม เหมือนรู้ว่าเพื่อนร่วมทีมอยู่ตรงไหนของสนาม

นอกจากยิงจุดโทษตีเสมอ 1 – 1 ในครึ่งแรกแล้ว วินิซิอุส ยังทำ 1 แอสซิสต์ในครึ่งหลัง จากจังหวะที่เหลือบไปเห็นลูคัส บาซเกซ วิ่งเติมเข้ามาจากทางขวา จึงตัดสินใจจ่ายบอลยาวข้ามฝั่งให้บาซเกซ ยิงตีเสมอ 2 – 2

เบลลิงแฮม ยิงทั้งเหย้า-เยือนในซีซั่นแรก

จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์เรอัล มาดริด คือผู้ทำประตูชัย 2 – 1 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+2 ในยกแรกของเอล กลาซิโก้ เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว และเขาก็ทำแบบเดิมอีกในหนล่าสุด กับประตู 3 – 2 นาทีที่ 90+1

ดาวเตะทีมชาติอังกฤษวัย 20 ปี กลายเป็นนักเตะคนแรกนับตั้งแต่รุด ฟ่าน นิสเตอรอย ในฤดูกาล 2006/07 ที่ทำประตูใส่บาร์เซโลน่าในลาลีกาได้ทั้งเหย้าและเยือนตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ย้ายมาค้าแข้งกับเรอัล มาดริด

กล้าเสี่ยงในช่วงทดเจ็บ จนได้ประตูชัย

แม้ว่าผลเสมอ 2 – 2 จะทำให้เรอัล มาดริด ยังรักษาช่องว่างไว้ที่ 8 แต้มเท่าเดิม แต่ทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ ต้องการมากกว่านั้น ด้วยการตัดสินใจเสี่ยงบุกเพื่อเอาประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ๊บ และก็ทำได้สำเร็จ

ชัยชนะของเรอัล มาดริดในนัดล่าสุด ทำให้ช่องว่างทิ้งบาร์เซโลน่าห่างเป็น 11 แต้ม และเหลือให้เล่นอีก 6 เกม พวกเขาต้องการอีกเพียง 7 แต้ม เพื่อการันตีแชมป์ลีกสูงสุดของสเปนสมัยที่ 36 ในประวัติศาสตร์สโมสร

นี่คือความยอดเยี่ยมของเรอัล มาดริด ที่สามารถเก็บชัยในเอส กลาซิโก้ ทั้ง 3 เกมภายในฤดูกาลเดียวกัน แถมยิงประตูได้มากที่สุด และโดนเจาะตาข่ายน้อยที่สุด แสดงให้เห็นถึงระบบทีมที่แข็งแกร่งสุด ๆ

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: