ไก่รอเช็ค ‘ซน-แมดดิสัน’ รับมือหงส์, ผีหลังยวบ, ปืนลุ้นหลายราย…ปรีวิว พรีเมียร์ลีก
วันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566
แอสตัน วิลล่า – ไบรท์ตัน (18:30 น.)
วิลล่า จะต้องรอทดสอบสภาพความฟิตของ เจค็อบ แรมซี่ย์ ในขณะที่ เลออน เบลีย์ และ อเล็กซ์ โมเรโน่ จะพลาดเกมนี้ไป
ดิเอโก้ คาร์ลอส กับ เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ เป็นสำรองไม่ได้ลงสนามในเกมกลางสัปดาห์หลังคัมแบ็คจากอาการเจ็บ
ทางด้าน ไบรท์ตัน เกมนี้ยังไวไปสำหรับ พาสคาล โกรส และ เจมส์ มิลเนอร์ ส่วน อดัม ลัลลาน่า ก็มีปัญหาเจ็บเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม อีแวน เฟอร์กูสัน หายจากอาการป่วยพร้อมสำหรับการช่วยทีม
เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 2-2
เอฟเวอร์ตัน – ลูตัน ทาวน์ (21:00 น.)
เอฟเวอร์ตัน จะต้องรอประเมินความพร้อมของ วิตาลี มีโกเลนโก้ ที่โดนเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่งของเกมที่พบ วิลล่า เมื่อกลางสัปดาห์
นอกนั้น เชมุส โคลแมน, อันเดร โกเมส และ เดเล่ อัลลี ยังคงพักรักษาตัวตามเดิม
สำหรับ ลูตัน นั้นมีข่าวดีที่ รอส บาร์คลี่ย์ ฟื้นตัวจากอาการเจ็บแฮมสตริงแล้วมีลุ้นที่จะลงสนามพบกับทีมเก่าของเขา
ทอม ล็อคเยอร์ จะต้องประเมินความพร้อมก่อนจากที่โดนส่งไปตรวจอาการเจ็บในสัปดาห์นี้
เบน ฟรีคิกฟันธง : เอฟเวอร์ตัน ชนะ 2-0
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด – เบิร์นลี่ย์ (21:00 น.)
นิวคาสเซิ่ล จะไม่มี ฮาร์วี่ย์ บาร์นส ให้ใช้งานนานถึง 3 เดือนหลังพบกับอาการบาดเจ็บในสุดสัปดาห์ที่แล้ว
พวกเขายังต้องรอเช็คแฮมสตริงของ คัลลัม วิลสัน ว่าไหวหรือไม่ในขณะที่ อเล็กซานเดอร์ อิซาค กับ สเวน บ็อตมัน ก็ต้องลุ้นความฟิตเช่นกัน แต่ แดน เบิร์น น่าจะพร้อมแม้มีอาการป่วยก่อนหน้านี้และ บรูโน่ กีมาเรส น่าจะสลัดปัญหาเจ็บไปได้
เบิร์นลี่ย์ เองจะไม่มี มานูเอล เบนสัน ในเกมนี้เพราะปัญหาบาดเจ็บจากการลงสนามในช่วงกลางสัปดาห์
ไลล์ ฟอสเตอร์ ก็จะยังมีโทษแบนที่ต้องชดใช้เป็นเกมสุดท้ายและ โยฮันน์ เบิร์ก กุดมุนด์สัน มีปัญหากล้ามเนื้อต้องรอดูอีกที
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– นิวคาสเซิ่ล มีโอกาสเก็บชัยชนะเหนือ เบิร์นลี่ย์ 5 เกมติดต่อในลีกเป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 1995
– นิวคาสเซิ่ล ไม่แพ้มา 15 เกมติดในลีกแล้วเมื่อต้องพบกับทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาใหม่
เบน ฟรีคิกฟันธง :
บอร์นมัธ – อาร์เซน่อล (21:00 น.)
บอร์นมัธ อาจจะไร้ดาวยิงคนสำคัญอย่าง โดมินิก โซลันกี้ ที่พบกับอาการเจ็บข้อเท้าในเกมเจอ สโต๊ค กลางสัปดาห์
คริส เมฟัม, ลอยด์ เคลลี่, อเล็กซ์ สก็อตต์ และ เอมิเลียโน่ มาร์คอนเดส ยังคงไม่ได้มีส่วนร่วมแต่ ไทเลอร์ อดัมส์ อาจจะได้ประเดิมสนามในเกมลีกเป็นหนแรก
สำหรับ อาร์เซน่อล นั้นต้องลุ้นนักเตะหลายคนว่าพร้อมสำหรับการลงสนามหรือไม่ทั้ง เดแคลน ไรซ์, บูคาโย่ ซาก้า, เลอันโดร ทรอสซาร์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, วิลเลียม ซาลิบา และ ฟาบิโอ วิเอร่า
นอกนั้นพวกเขาก็ยังคงขาดนักเตะอย่าง โธมัส ปาร์เตย์ รวมถึง ยูร์เรียน ทิมเบอร์
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– ตอนนี้ บอร์นมัธ หาชัยชนะไม่เจอมา 10 เกมในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 3 แพ้ 7) ซึ่งเป็นสถิติของสโมสร
– อาร์เซน่อล มีโอกาสไร้พ่ายจากการลงสนาม 7 เกมแรกในลีกเป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 2007
เบน ฟรีคิกฟันธง : อาร์เซน่อล ชนะ 2-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – คริสตัล พาเลซ (21:00 น.)
แมนฯ ยูไนเต็ด จะขาดกองหลังอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือนจากปัญหาอาการเจ็บเท้ารังควาน
เซร์คิโอ เรกีลอน ก็มีปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อจะพลาดเกมนี้ไปเหมือนกัน หมายความว่า โซฟียาน อัมราบัต อาจจะต้องเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายต่อไป แต่อย่างน้อยยังได้ คริสเตียน อิริคเซ่น กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ หายป่วยกลับมา
สำหรับ พาเลซ นั้นยังคงไม่มี อ๊อดซอนน์ เอดูอาร์ ที่พบปัญหาเกี่ยวกับแฮมสตริงรบกวน
ดีน เฮนเดอร์สัน กับ ไยโร รีเดวัลด์ เจ็บจากเกมคาราบาว คัพทำให้พวกเขาจะต้องพักรักษาตัวตาม เจฟแฟร์ซอน แลร์มา และ มิเชล โอลิเซ่
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสกวาดเปิดรังเหย้าคว้าชัยชนะเหนือ พาเลซ 3 เกมติดต่อกันในทุกรายการ
– แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไร้พ่ายจากการเปิดรังเหย้าพบกับคู่แข่งจากลอนดอน 15 นัดหลังสุดในลีก โดยที่เอาชนะได้ใน 8 เกมหลังสุดด้วย
เบน ฟรีคิกฟันธง : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2-1
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด – เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (21:00 น.)
เวสต์แฮม ไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บเพิ่มเติมจากเดิมให้กังวลสำหรับเกมที่ เดวิด มอยส์ จะได้คุมทีมในลีกเป็นนัดที่ 900
อารอน เครสเวลล์ กำลังรักษาอาการเจ็บแฮมสตริงอยู่และจะลงสนามให้ทีมไม่ได้เหมือนเดิม
เชฟฟิลด์ นั้นจะได้ โอลี่ แม็คเบอร์นี่ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้และ กุสตาโว่ ฮาเมอร์ ก็หายจากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในระหว่างเกมพ่าย นิวคาสเซิ่ล
จอห์น เฟล็ค กลับมาซ้อมกับทีมอีกครั้งนึงหลังเจ็บไปตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นเพราะขาหัก
เบน ฟรีคิกฟันธง : เวสต์แฮม ชนะ 1-0
วูลฟ์ส – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (21:00 น.)
วูลฟ์ส จะขาดกองกลางอย่าง ฌ็อง-รีคเนร์ เบลเลอการ์ด ที่ติดโทษแบนและ ทอมมี่ ดอยล์ ก็มีส่วนร่วมไม่ได้เพราะเป็นนักเตะที่ยืมมาจาก แมนฯ ซิตี้
นอกเหนือจากนั้น แกรี่ โอนีล มีนักเตะเพียบพร้อมให้เลือกใช้งาน
สำหรับ แมนฯ ซิตี้ นั้นยังคงขาด โรดรี้ ไปเป็นเกมที่สองเพราะติดโทษแบนจากใบแดงเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน
แบร์นาร์โด้ ซิลวา กับ จอห์น สโตนส์ ใกล้จะกลับมาจากอาการเจ็บแล้วในขณะที่พวกเขายังคงขาด เควิน เดอ บรอยน์ ที่พักรักษาตัวอีกนานตามเดิม
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– แมนฯ ซิตี้ ผ่านการกวาดชัยชนะเหนือ วูลฟ์ส ตลอด 6 เกมหลังสุดที่พบกันในพรีเมียร์ลีก โดยยิงไปถึง 19 ลูกและเสียเพียงแค่ 3 ประตูเท่านั้น
– แมนฯ ซิตี้ ยังมีลุ้นกวาดชัยชนะตลอดทั้ง 7 เกมแรกในลีกของฤดูกาลเป็นหนแรก
เบน ฟรีคิกฟันธง : แมนฯ ซิตี้ ชนะ 3-0
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ – ลิเวอร์พูล (23:30 น.)
สเปอร์ส หมดโอกาสใช้ เบรนแน่น จอห์นสัน เป็นที่แน่นอนเพราะปัญหาอาการบาดเจ็บแฮมสตริงที่เกิดขึ้นในสุดสัปดาห์ก่อน
เจมส์ แมดดิสัน และ ซน ฮึง มิน ลงซ้อมกับทีมได้และจะต้องรอดูความพร้อมเอาให้แน่นอน
ขณะที่ ลิเวอร์พูล นั้นได้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กลับมาฟิตพร้อมช่วยทีมอีกครั้งหลังอาการเจ็บแฮมสตริงทำเขาพักไป 4 นัด
สเตฟาน บายเซติช มีปัญหาเจ็บน่องเล็กน้อยและเขาจะต้องพักเช่นเดียวกับ ธิอาโก้ อัลคันทาร่า
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– ชัยชนะที่ สเปอร์ส มีในเดือนตุลาคม 2017 เป็นหนเดียวที่พวกเขาชนะ ลิเวอร์พูล จากการเจอกัน 23 เกมหลังสุดในทุกรายการ
– ลิเวอร์พูล ยังไร้พ่ายกับการไปเยือนสนาม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม โดยชนะไป 3 เสมอ 1 จากการเยือน 4 นัด
– ซน ฮึง มิน ผ่านการทำประตูได้ตลอดทั้ง 3 เกมหลังสุดที่ลงสนามพบ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก
– โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ มีส่วนร่วมในการทำประตู 15 ลูกจากการลงเล่น 12 นัดหลังสุดในลีก โดยยิงไป 6 ประตูและแอสซิสต์ 9 หน
เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 2-2
ที่มา: soccersuck
