เผยทีมพรีเมียร์ชั่งใจใช้ ‘ภาษีฟุ่มเฟือย’ แทนตัดแต้มหากผิดกฏการเงิน

เดลี่ เมล

รายงานว่าสโมสรในพรีเมียร์ลีกอาจตัดสินใจเปลี่ยนจากบทลงโทษตัดแต้มมาเป็นการใช้ภาษีฟุ่มเฟือยแทน สำหรับการทำผิดกฎการเงิน

การตัดแต้มหนักๆที่ เอฟเวอร์ตัน และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พบ รวมถึงตลาดซื้อขายที่เงียบสนิทในเดือนมกราคมที่ผ่านมาเพราะแต่ละทีมไม่อยากใช้เงินเยอะเกินจนผิดกฎ ทำให้หลายคนมองว่ากฎตอนนี้ไม่เข้ากับจุดประสงค์

นอกเหนือจากนี้ยังมีความเป็นกังวลว่ากฎในปัจจุบันอาจทำให้พรีเมียร์ลีกเสียตำแหน่งลีกที่ดีที่สุดในโลก เพราะไม่มีทีมไหนที่จะทุ่มเงินเพื่อคว้านักเตะที่ดีที่สุดมาด้วยค่าเหนื่อยก้อนใหญ่ๆ

การปรับเปลี่ยนเป็นสิ่งที่หลายสโมสรกำลังพูดคุยกันและอาจจะมีการโหวตให้ใช้ระบบใหม่ในช่วงสิ้นฤดูกาล โดยตอนนี้มี 17 จาก 20 ทีมในลีกที่เอนเอียงอยากให้มีการปรับเปลี่ยนกฎ ซึ่งการจะเปลี่ยนแปลงกฎอะไรของลีกนั้นจะต้องได้รับการเห็นพ้องจาก 14 สโมสรเป็นอย่างน้อย

บางคนรู้สึกว่าโทษตัดแต้ม 6 คะแนนที่ เอฟเวอร์ตัน ได้รับและอีกโทษตัด 4 แต้มที่ ฟอเรสต์ โดนนั้นเข้มงวดไปและไม่สะท้อนถึงสาเหตุที่นำกฎมาใช้

พวกเขาเชื่อว่าหากสโมสรอยากที่จะทุ่มทุนและมีเงินให้ควักออกมาใช้ สโมสรเหล่านั้นก็ไม่ควรพบกับบทลงโทษที่สุดท้ายแล้วอาจส่งผลถึงขั้นตกชั้น

มีการพิจารณาเอา “ภาษีฟุ่มเฟือย” มาใช้ ซึ่งมีไว้เพื่อปรับเงินสโมสรที่ใช้เงินสูงเกินไปและจะโดนปรับมากขึ้นหากใช้มากยิ่งขึ้น แต่ก็เปิดทางให้สโมสรทุ่มต่อไปได้หากพวกเขาคิดว่ารับมือไหว

เงินที่รวบรวมจากภาษีฟุ่มเฟือยก็จะถูกแบ่งปันกลับไปให้กับสโมสรอื่นในพรีเมียร์ลีกที่ปฏิบัติตามกฎ นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยว่าเงินค่าปรับอาจนำไปช่วยสโมสรในเดอะ แชมเปี้ยนชิพที่มีความเสี่ยงทางด้านการเงิน

ตอนนี้ภาษีฟุ่มเฟือยมีการใช้ในกีฬาของอเมริกาอย่างเมเจอร์ลีกเบสบอลและบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอ โดยจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่พวกเขาทุ่มลงไปกับการจ่ายค่าเหนื่อยให้ผู้เล่นในทีม

ส่วนอีกสองกีฬาใหญ่ของอเมริกาอย่างอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอลและฮอกกี้เอ็นเอชแอลนั้น มีการกำหนดเพดานค่าเหนื่อยอย่างเข้มงวด ซึ่งไม่อนุญาตให้แต่ละทีมใช้เงินเกินกำหนด

แม้บางสโมสรอยากเอาภาษีฟุ่มเฟือยมาแทนการตัดแต้ม แต่วงในของพรีเมียร์ลีกยืนกรานว่าการเปลี่ยนแปลงจะต้องมีบทลงโทษในด้านกีฬารวมอยู่ด้วย

กฎใหม่ของยูฟ่ากำหนดให้สโมสรใช้จ่ายค่าเหนื่อยของนักเตะและโค้ช, การซื้อขายและค่าเอเยนต์สูงสุดที่ 70 เปอร์เซนต์ของรายได้ แล้วก็เป็นกฎที่บางทีมชอบใจ

อีกจุดนึงที่จะมีการพูดคุยกันในช่วงสิ้นฤดูกาลคือการเปลี่ยนแปลงกฎการเงินบางส่วน เพื่อที่ว่าต่อไปจะได้นำเพียงแค่ค่าตัวกับค่าเหนื่อยของนักเตะรวมถึงของสตาฟฟ์โค้ชไปคำนวณเท่านั้น

ปัจจุบันเงินที่ใช้ไปกับการสร้างสนามใหม่, โครงสร้างภายใน, การพัฒนาเยาวชนและโปรเจ็คท์สำหรับชุมชนจะไม่ถูกนับรวมในกฎการเงิน

อย่างไรก็ตามมีความพยายามที่จะผลักดันให้ตัดส่วนอื่นออกไปเพื่อเหลือเพียงแค่ค่าตัวและค่าเหนื่อยของนักเตะ กับเงินที่พวกเขาใช้ไปกับสตาฟฟ์โค้ช เพื่อเปิดโอกาสให้สโมสรลงทุนไปกับส่วนอื่นของสโมสรอย่างเช่นการทำคอนเทนต์และมาร์เก็ตติ้งเพื่อขยายฐานแฟนบอลระดับโลก

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: