‘เคน’ รับมีไฟอยากไปให้ถึง UCL นัดชิงอีกครั้ง

‘เคน’ รับมีไฟอยากไปให้ถึง UCL นัดชิงอีกครั้ง

แฮร์รี่ เคน หัวหอกของ บาเยิร์น มิวนิค เปิดเผยว่ามีไฟอยู่ในตัวเขาที่ต้องการจะไปให้ถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง หลังเคยอกหักกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว

ซีซั่นนี้ เคน ช่วยให้ บาเยิร์น เข้าจนถึงรอบก่อนรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกและจะเปิดรังเหย้าต้อนรับ อาร์เซน่อล มาเยือนในเกมนัดสองหลังเสมอกันมา 2-2 ในเลกแรก

เคน เคยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศกับ สเปอร์ส ในปี 2019 แต่ก็ต้องพบกับความพ่ายแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล และเขากล่าวว่า “เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไปถึงนัดชิงแต่ไม่ถึงเส้นชัย ก็จะมีไฟในตัวคุณที่จะพยายามกลับสู่จุดนั้นและก้าวไปให้ไกลกว่าเดิมอีกก้าว”

“ปีนี้เรามีโอกาสอยู่นะซึ่งพรุ่งนี้จะเป็นเกมสำคัญ และถ้าเราก้าวไปได้อีกก้าวในคืนพรุ่งนี้ ก็จะเหลืออีกไม่กี่เกมจากการไปให้ถึง เวมบลีย์”

“ตอนนี้ยังห่างไกลอยู่ มันอาจเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แต่ทั้งหมดที่ผมโฟกัสคือวันพรุ่งนี้ ทั้งหมดที่ผมทำได้คือโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุด, ช่วยทีมด้วยฟอร์มที่ดีที่สุดแลจากนั้นก็ค่อยๆพยายามไปให้ถึงเป้าหมายของเรา”

แข้งทีมชาติ อังกฤษ ยังทำประตูได้ในเกมเยือนลอนดอนเหนือสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ตอนนี้เขายิงไป 15 ประตูจากการลงสนามพบ อาร์เซน่อล มา 20 นัด

เขาเคยเป็นเด็กเยาวชนของ อาร์เซน่อล แต่โดนปล่อยตัวตอนอายุแค่ 9 ขวบและยอมรับว่าตัวเขายังมีความรู้สึกที่จะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้

“ผมคิดว่านอร์ธลอนดอน ดาร์บี้เป็น 1 ในเกมที่ยิ่งใหญ่สุดของฤดูกาลมาเกือบตลอดเส้นทางอาชีพของผมเลย ผมลงสนามเจอพวกเขาอย่างน้อยปีละ 2 หนตลอด 10 ปีที่ผ่านมาและมันก็เป็นเกมใหญ่, เป็นโมเมนต์สำคัญ”

“บางทีมันอาจอยู่ในจิตสำนึกผมว่ามีสิ่งให้พิสูจน์ตัวเองเสมอ จากที่โดนปล่อยตัวตั้งแต่อายุน้อยๆ ผมเป็นนักเตะประเภทที่มีสิ่งให้พิสูจน์ตัวเองมาตลอดเส้นทางอาชีพ ผมไม่คิดว่ามันเลือนหายไปไหนนะ ผมว่ามันอยู่ในดีเอ็นเอของผมจนกว่าจะเลิกเล่นนั่นล่ะ”

“มันจะมีเหตุผลให้พิสูจน์ว่าคนอื่นคิดผิดหรือพิสูจน์ตัวเองว่าผมทำบางอย่างได้ ดังนั้นผมไม่ได้นึกย้อนถึงตอนนั้นโดยเฉพาะและคิดว่า ‘เราโดนปล่อยตัวตอน 9 ขวบ เราต้องสร้างความแตกต่างในเกมพรุ่งนี้'”

“ตอนนี้ผมมาอยู่กับ บาเยิร์น ซึ่งมันเป็นการอยู่กับทีมระดับท็อปในแชมเปี้ยนส์ลีก แน่นอน ผมมีประวัติกับ อาร์เซน่อล แต่ทั้งหมดที่ผมจะพยายามทำคือช่วย บาเยิร์น เข้าสู่รอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก”

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: