หันมองตัวเอง! ซูอี้อัด ‘กรีลิช’ ไร้พัฒนาโดน ‘โดกู’ แซง
แกรห์ม ซูเนสส์ ตำนานกัปตัน ลิเวอร์พูล วิจารณ์ แจ็ค กรีลิช เล่นสไตล์เดิมเก็บบอลนานไม่มีเปลี่ยนจึงคาดเดาได้ง่ายจนถูก เฌเรมี่ โดกู แย่งตำแหน่ง พร้อมแนะแนวรุกรุ่นน้อง พิจารณาอนาคตตัวเองโดยด่วน
กรีลิช หวนสู่ทีมในนัดกลางสัปดาห์ ลงเล่น 54 นาทีไร้ประตูหรือแอสซิสต์ ถูกเปลี่ยน เฌเรมี่ โดกู ลงแทนก่อน “เรือใบสีฟ้า” รัวยิงแซงชนะ แอร์ไบ ไลป์ซิก 3-2 คว้าแชมป์กลุ่ม แชมป์เปี้ยนส์ ลีก
นั่นทำให้ฤดูกาลนี้ แข้งอังกฤษวัย 28 ลงสนามไปแล้ว 14 นัดทุกรายการ ยังยิงไม่ได้แต่มี 2 แอสซิสต์ และ ซูเนสส์ ก็แสดงทัศนะถึงสถานการณ์ของรุ่นน้องรายนี้
“แจ็ค กรีลิช จะไม่สามารถอยู่ทีม ลิเวอร์พูล ชุดไหนก็ตามในยุคของผม วิธีการเล่นของเขาจะไม่เป็นที่ยอมรับ” อดีตแข้งสก็อตแลนด์ เขียนผ่านคอลัมน์
เดลี่ เมล
ประจำวันศุกร์ที่่ผ่านมา
“กรีลิช ใช้การสัมผัสบอลมากเกินไป และไม่เห็นภาพใหญ่มากพอ เขาทำให้ทั้งทีมช้าลง จนทำให้ผมเข้าใจที่ เป๊ป เลือกใช้ โดกู ก่อน”
“กรีลิช กลายเป็นนักเตะที่เดาทางได้ง่ายมาก เขาดวลกับฟูลแบ็คที่ริมเส้น ก่อนจะตัดในแล้วเปิดเข้าเขตโทษ”
“กรีลิช ขาดทั้งอันตราย และผลลัพท์ในจังหวะสุดท้าย เขายิงประตูไม่ได้มาตลอด 30 นัดรวมทั้งในทีมชาติ และมีแค่ 2 แอสซิสต์เท่านั้นในซีซั่นนี้ ทั้งที่ตัวเองเป็นแนวรุก!”
ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ตำนานกองหลัง ซิตี้ ชี้ว่า กรีลิช ยังคาดเดาได้ยากกว่า โดกู และขอเลือกประกบรายหลังก่อน แต่ ซูเนสส์ เห็นต่างสิ้นเชิง
“คุณถามฟูลแบ็ค 10 คนว่าอยากเจอกับใครมากกว่าระหว่าง โดกู กับ กรีลิช, ผมคิดว่าคำตอบจะเป็น กรีลิช ทุกครั้ง” ซูเนสส์ อธิบายต่อ
“ผู้เล่นเกมรับ ไม่ชอบคู่แข่งที่มีความเร็วและเล่นอย่างไดเรคท์ แถมโลกฟุตบอลตอนนี้ แค่ขัดขากันก็เป็นจุดโทษ แต่ กรีลิช กลับไม่แสดงถึงความมุ่งมั่นแม้แต่น้อย ในการเลี้ยงผ่านกองหลัง”
“สำหรับผมตอนนี้ กรีลิช มาถึงทางแยกของอาชีพ เขาอายุ 28 แล้วและจำเป็นต้องพิจารณาตัวเองอย่างละเอียด เขาควรอยู่ในช่วงพีคของตัวเอง”
“หากผมเป็น กรีลิช คงรู้สึกกังวลอย่างมาก และผมจะถาม เป๊ป ว่าทำไมถึงเลือกใช้เด็กใหม่ก่อน ทั้งที่ตัวเองเพิ่งร่วมคว้าแชมป์ทั้งหลายกับทีม”
“คำวิจารณ์ที่ผมมีต่อ กรีลิช นั้นเหมือนเดิมมาตลอด และเขาก็ยังคงเป็นเหมือนสมัยอยู่ แอสตัน วิลล่า ไม่มีเปลี่ยน, ผมไม่เชื่อว่า เป๊ป จะฝึกสอน กรีลิช เป็นการส่วนตัวมากขนาดนั้น”
“ไม่มีโค้ชคนไหนบอกลูกทีมให้เก็บบอลกับตัวนานแบบที่ กรีลิช ทำ และนั่นคือเหตุผลที่่เขาหลุดจากทีม เขาค่าตัว 100 ล้าน ส่วน โดกู 55 ล้านปอนด์เท่านั้น มันแสดงให้เห็นว่านักเตะ พรีเมียร์ ลีก ราคาสูงเกินจริงแค่ไหน”
ที่มา: soccersuck
