ปืนลุ้น ‘ซาก้า’ บุกรังสิงห์, ผีได้ ‘เรกีลอน-วาราน’ คืนทัพ…ปรีวิว พรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2566
ลิเวอร์พูล – เอฟเวอร์ตัน (18:30 น.)
ลิเวอร์พูล จะไม่มี แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ให้ใช้งานเพราะจะต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการเจ็บหัวไหล่ที่เกิดระหว่างไปรับใช้ทีมชาติ และคาดหมายว่าพักกันเป็นเวลาหลายเดือน
ดูเหมือนว่า โคดี้ กัคโป จะฟื้นตัวกลับมาจากปัญหาเจ็บหัวเข่าแล้วและ ดิโอโก้ โชต้า ก็พ้นโทษแบนกลับมาพร้อมสำหรับลงสนามแต่ เคอร์ติส โจนส์ ยังติดโทษแบนต่อไป
เอฟเวอร์ตัน นั้นก็จะได้ อิดริสซ่า เกย์ กองกลางของพวกเขาฟิตกลับมาอีกครั้งหลังจากปัญหาเจ็บส้นเท้าทำให้เขาพักไปหลายสัปดาห์
เดเล่ อัลลี, เชมุส โคลแมน และ อันเดร โกเมส ยังคงหายหน้าไปจากการช่วยทีม
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– หนเดียวที่ ลิเวอร์พูล แพ้ให้ เอฟเวอร์ตัน จากการเจอกัน 28 เกมหลังสุดในทุกรายการคือเกมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 (ชนะ 14 เสมอ 13)
– ตอนนี้ ลิเวอร์พูล แพ้เกมเหย้าในพรีเมียร์ลีกแค่หนเดียวจาก 45 นัดหลังสุด (ชนะ 34 เสมอ 10)
– เอฟเวอร์ตัน กวาดชัยชนะมา 2 จาก 3 นัดหลังสุดในลีก และมีลุ้นเก็บชัยชนะเกมเยือนในลีกสองนัดติดเป็นหนแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021
เบน ฟรีคิกฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0
บอร์นมัธ – วูลฟ์ส (21:00 น.)
บอร์นมัธ มีข่าวดีกับการได้ ฟิลลิป บิลลิ่ง, ลอยด์ เคลลี่ และ คริส เมฟัม กลับมาช่วยทีม
อเล็กซ์ สก็อตต์ ที่เซ็นสัญญามาเมื่อช่วงซัมเมอร์ก็ลงซ้อมแล้วแต่ยังขาดความฟิตอยู่ ในขณะที่ ไทเลอร์ อดัมส์ ต้องพักยาวๆเพราะผ่าตัดแฮมสตริงรอบสอง
วูลฟ์ส นั้นจะขาดนักเตะแบบ มาริโอ เลอมิน่า และ เนลสัน เซเมโด้ เนื่องจากติดโทษแบนทั้งคู่
อูโก้ บูเอโน่ เองก็ต้องลุ้นความพร้อมเช่นกันหลังมีปัญหาเจ็บรบกวนแต่ ฌ็อง-รีคเนอร์ เบลเลอการ์ด พ้นโทษแบนกลับมาแล้ว
เบน ฟรีคิกฟันธง : วูลฟ์ส ชนะ 1-0
เบรนท์ฟอร์ด – เบิร์นลี่ย์ (21:00 น.)
เบรนท์ฟอร์ด จะได้ มาร์ค เฟลคเค่น นายด่านของพวกเขาฟื้นตัวกลับมาจากอาการไส้ติ่งอักเสบ ในขณะที่ เบน มี ก็หวนซ้อมและอาจได้มีส่วนร่วมเป็นหนแรกในรอบ 5 สัปดาห์
กระนั้น อารอน ฮิคกี้ จะหมดโอกาสลงสนามเพราะติดโทษแบนหลังสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ
เบิร์นลี่ย์ อาจจะได้ อามีน อัล-ดาคีล ลงสนามได้แม้จะโดนเปลี่ยนตัวออกในเกมพบ เชลซี และพลาดการเล่นกับทีมชาติ
ยอร์ดาน เบเยอร์ ยังต้องพักต่อไปและยังขาดทั้ง ฮัลมาร์ เอ็คดัล, โยฮันน์ กุดมุนด์สัน, นาธาน เรดมอนด์, มานูเอล เบนสัน และ ไมเคิ่ล โอบาเฟมี่
เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 1-1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – ไบรท์ตัน (21:00 น.)
แมนฯ ซิตี้ นั้นจะได้ โรดรี้ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมสักทีหลังอดลงสนามตลอด 3 เกมหลังสุดในลีก
จอห์น สโตนส์ ได้ลงสนามให้ทีมชาติไปครบชั่วโมงในเกมเจอ อิตาลี กลางสัปดาห์และมีหวังได้ออกสตาร์ทในลีกเป็นนัดแรกของฤดูกาล
สำหรับ ไบรท์ตัน จะมี เจมส์ มิลเนอร์ ฟิตพอสำหรับการเจอสโมสรเก่าหลังจากพักไปเดือนเพราะปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อ
คาโอรุ มิโทมะ ถูกคาดหมายว่าจะลงเล่นได้ถึงแม้มีอาการป่วยระหว่างไปช่วยทีมชาติ นอกนั้นก็ยังคงขาด ฮูลิโอ เอนซิโซ่, แพร์วิส เอสตูปิญาน, ทาริก แลมป์ตีย์ และ ยาคุบ โมเดอร์ ยังลงเล่นไม่ได้ตามเดิม
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– ไบรท์ตัน ยังไม่เคยเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ในเกมลีกเวลาเป็นฝ่ายไปเยือน (เสมอ 2 แพ้ 11) แถมแพ้ตลอด 9 นัดหลังที่ไปเยือน
– แมนฯ ซิตี้ อาจแพ้เกมลีก 3 นัดติดต่อกันเป็นหนแรกนับตั้งแต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาคุมทีมโดยหนสุดท้ายที่เกิดขึ้นคือเมื่อเดือนมีนาคม 2016 สมัย มานูเอล เปเญกรินี่ คุมอยู่
เบน ฟรีคิกฟันธง : แมนฯ ซิตี้ ชนะ 2-1
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด – คริสตัล พาเลซ (21:00 น.)
นิวคาสเซิ่ล ยังต้องรอเช็คความพร้อมของ สเวน บ็อตมัน กันต่อไปแต่การฟื้นตัวจากปัญหาหัวเข่าก็เป็นไปด้วยดี
อเล็กซานเดอร์ อิซาค เองก็พบกับปัญหาคล้ายๆกันเลยต้องรอลุ้นแต่ในรายของ โชเอลินตอน น่าจะกลับมาจากอาการเจ็บได้และ แอนโธนี่ กอร์ดอน ก็จะพ้นโทษแบนกลับมาเช่นกัน ขณะที่ ซานโดร โตนาลี ยังลงได้แม้มีข่าวเรื่องพนัน
พาเลซ จะได้นักเตะทั้ง ชีค ดูคูเร่, โจเอล วอร์ด และ นาอุยรู อาฮามาด้า ก็ฟิตพอสำหรับการลงเล่น
นักเตะที่เซ็นสัญญามาเมื่อช่วงซัมเมอร์อย่าง มาเธอุส ฟรานซา ก็หายจากปัญหาเจ็บหลังและพร้อมประเดิมสนามแล้ว แต่พวกเขายังขาดทั้ง เอเบเรชี่ เอเซ่, มิเชล โอลิเซ่, เจมส์ ทอมกินส์, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ และ ดีน เฮนเดอร์สัน
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– จนถึงตอนนี้ความพ่ายแพ้คาบ้านที่ นิวคาสเซิ่ล พบในการลงสนาม 37 เกมภายใต้การคุมทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว นั้นเกิดขึ้นจากการพบกับ ลิเวอร์พูล (3 หน), อาร์เซน่อล และ แมนฯ ซิตี้
– พาเลซ หาชัยชนะไม่เจอจากการพบกับ นิวคาสเซิ่ล ในลีก 4 นัดหลังสุด (เสมอ 3 แพ้ 1)
เบน ฟรีคิกฟันธง : นิวคาสเซิ่ล ชนะ 3-1
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ – ลูตัน ทาวน์ (21:00 น.)
ฟอเรสต์ ต้องรอเช็คความพร้อมของ กอนซาโล่ มอนเตียล หลังมีปัญหาเจ็บน่องรบกวนและ แซร์จ โอริเยร์ ก็มีปัญหาเจ็บขาหนีบรังควานเหมือนกัน
มุสซ่า เนียคาเต้ กลับมาจากโทษแบนแล้วแต่ ไทโว อโวนิยี่, โอลา ไอน่า, ดานิโล่ และ เฟลิเป้ ยังคงลงสนามไม่ได้
ส่วน ลูตัน จะไม่ได้ใช้งาน มัดส์ อันเดอร์เซ่น เป็นเวลาหลายเดือนเพราะอาการเจ็บแฮมสตริงจากเกมที่พบกับ สเปอร์ส
เกมนี้อาจได้เห็น แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ประเดิมสนามหลังย้ายร่วมทีมแบบฟรีเอเยนต์และ กาเบรียล โอโช่ ก็ฟื้นตัวจากปัญหาหัวเข่าด้วยเหมือนกัน แต่เกมนี้ยังไวไปสำหรับ อามารี เบลล์
เบน ฟรีคิกฟันธง : ฟอเรสต์ ชนะ 1-0
เชลซี – อาร์เซน่อล (23:30 น.)
เชลซี จะมีนักเตะอย่าง มาโล กุสโต้ กลับมาจากโทษแบน 3 นัดและในรายของ รีซ เจมส์ หวนลงซ้อมแล้วแต่ยังต้องรอการประเมินความพร้อมก่อน
อักเซล ดิซาซี่ และ นิโคลัส แจ๊คสัน ถอนตัวจากทีมชาติเพราะอาการเจ็บเลยต้องรอลุ้นด้วยเหมือนกัน นอกนั้น อาร์มันโด้ โบรย่า, เทรโวห์ ชาโลบาห์, คาร์นี่ย์ ชุคเวเมก้า, เบล ชิลเวลล์, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า และ โรเมโอ ลาเวีย ยังพักต่อไปตามเดิม
อาร์เซน่อล เองก็จะต้องจับตาดูความพร้อมของ บูคาโย่ ซาก้า รวถึง เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ต้องรักษาปัญหาเกี่ยวกับแฮมสตริง
วิลเลียม ซาลิบา ก็มีปัญหาเรื่องอาการเจ็บให้ต้องกังวลแต่นอกเหนือจากนี้พวกเขาไม่มีนักเตะหายไปนอกจาก ยูร์เรียน ทิมเบอร์
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– อาร์เซน่อล ชนะมา 6 จาก 7 เกมหลังสุดที่พบกับ เชลซี ในทุกรายการและมีุล้นเอาชนะ เชลซี ได้ 4 เกมติดต่อกันในลีกเป็นหนแรก
– เชลซี มีลุ้นเก็บชัยชนะในลีก 3 นัดติดต่อกันเป็นหนแรกนับตั้งแต่ตอนที่ชนะ 4 เกมรวดในระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคมปีที่แล้ว
– เมาริซิโอ ปอเชตติโน่ ไม่เคยแพ้เกมลีกคาบ้านต่อ อาร์เซน่อล มาก่อนโดยเอาชนะไป 3 นัดและเสมออีก 3 เกมจากการเจอกัน 6 นัด
– อาร์เซน่อล เองไร้พ่ายจากการลงสนามลอนดอนดาร์บี้มา 15 เกมหลังสุด (ชนะ 11 เสมอ 4)
เบน ฟรีคิกฟันธง : อาร์เซน่อล ชนะ 2-0
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (02:00 น.)
เชฟฟิลด์ ได้ทั้ง เบน ออสบอร์น และ จอร์จ บัลด็อค พร้อมสำหรับกลับมามีชื่อช่วยทีมอีกครั้ง
คริส บาชัม ต้องพักยาวเพราะข้อเท้าหักทำให้รายชื่อนักเตะบาดเจ็บของพวกเขายาวเพิ่มขึ้นอีก
แมนฯ ยูไนเต็ด จะขาดกองกลางอย่าง คาเซมิโร่ ไปเพราะอาการเจ็บเล็กน้อยในระหว่างเดินทางไปเล่นเกมทีมชาติ
อย่างไรก็ตาม ราฟาเอล วาราน กับ เซร์คิโอ เรกีลอน ฟิตแล้วและ โซฟียาน อัมราบัต ก็พร้อมลงเล่นแม้พลาดการลงสนามกับ โมร็อกโก
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– เชฟฟิลด์ ไร้ชัยชนะมา 6 เกมกับการเปิดรังเหย้าเจอ แมนฯ ยูไนเต็ด ในทุกรายการนับตั้งแต่ชัยชนะ 2-1 ในเดือนกุมภาพันธ์ 1993
– หาก แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดท่าแพ้ก็จะทำให้การออกสตาร์ทของพวกเขาพบกับความพ่ายแพ้ไปถึง 5 จาก 9 เกมแรกในลีก ซึ่งจะยังเป็นหนแรกนับตั้งแต่ตอนที่พ่าย 6 เกมภายใต้การคุมทีมของ รอน แอตกินสัน ในปี 1986
เบน ฟรีคิกฟันธง : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 3-0
ที่มา: soccersuck
