บิลเบา vs มายอร์ก้า : ศึกชิงดำฟุตบอลถ้วย ของ 2 ยอดทีมลาลีกา

#SSxLaLiga | สุดสัปดาห์นี้ ลีกลูกหนังแดนกระทิงดุ จะหลีกทางให้กับแมตช์ชิงดำของการแข่งขันฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ ผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ที่จะได้เฉลิมฉลองความสำเร็จ

ศึกฟุตบอลถ้วยโกปา เดล เรย์ ฤดูกาล 2023/24 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ แอธเลติก บิลเบา พบกับ เรอัล มายอร์ก้า ที่สนามเอสตาดิโอ ลา การ์ตูฆา คืนวันเสาร์ที่ 6 เมษายนนี้ เวลา 03.00 น.

สถานการณ์ในลีกของทั้ง 2 ทีม แตกต่างกันค่อนข้างมาก บิลเบา กำลังอยู่ในเส้นทางลุ้นท็อปโฟร์ ขณะที่มายอร์ก้า ต้องดิ้นรนเพื่อหนีการตกชั้น อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ต่างตั้งเป้าที่จะคว้าโทรฟี่ใบนี้ให้ได้

บิลเบา : เข้าชิงครั้งที่ 40 กับ 40 ปีที่รอโทรฟี่

แอธเลติก บิลเบา ทีมอันดับที่ 5 ของลีกสูงสุด เป้าหมายแรกของพวกเขาในฤดูกาลนี้ คือการกลับสู่เวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หนแรกในรอบ 10 ปี ซึ่งในเวลานี้ ตามหลังแอตเลติโก้ มาดริด ทีมอันดับที่ 4 อยู่ 2 แต้ม

เส้นทางการลุ้นแชมป์ โกปา เดล เรย์ ผ่านด่านสำคัญอย่างบาร์เซโลน่าในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่เปิดบ้านชนะ 4 – 2 หลังจากต่อเวลาพิเศษ ต่อด้วยรอบรองชนะเลิศ เอาชนะแอตฯ มาดริดทั้ง 2 เกม สกอร์รวม 4 – 0

นักเตะคีย์แมนสำคัญของบิลเบาที่น่าจับตามองในรอบไฟนัล ได้แก่ 3 ประสานแนวรุก กอร์ก้า กูรูเซต้า, อินญากี้ วิลเลียมส์ และนิโก้ วิลเลียมส์ รวมถึงอูไน ซิม่อน ผู้รักษาประตูที่มีสถิติการป้องกันประตูที่ยอดเยี่ยม

ยอดทีมจากแคว้นบาสก์ จะลงเล่นนัดชิงชนะเลิศโกปา เดล เรย์ เป็นครั้งที่ 40 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร ซึ่งหนล่าสุดที่ได้โทรฟี่ ต้องย้อนกลับไปในปี 1984 แต่หลังจากนั้น พวกเขาเข้าชิงอีก 6 ครั้ง ปราชัยทั้งหมด

ถือเป็นเกมสำคัญของเอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กุนซือวัย 60 ปี เหลืออีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น ที่เขาจะพาแอธเลติก บิลเบา ปลดล็อกคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยระดับเมเจอร์ของสเปน หลังห่างหายไปนานถึง 40 ปี

มายอร์ก้า : ลุ้นแชมป์สมัยที่ 2 ในรอบ 21 ปี

เรอัล มายอร์ก้า ทีมอันดับที่ 15 ของลีกสูงสุด กำลังต่อสู้เพื่อรักษาสถานะทีมในดิวิชั่น 1 ต่อไปในซีซั่นหน้า โดยในเวลานี้ มีคะแนนอยู่เหนือโซนตกชั้นอยู่ 6 แต้ม แต่ก็ยังไว้วางใจไม่ได้ กับอีก 8 เกมที่เหลืออยู่

เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ ล้มทีมจอมเซอร์ไพรส์อย่างจีโรน่าในรอบก่อนรองชนะเลิศ หลังเปิดบ้านคว้าชัย 3 – 2 ต่อด้วยในรอบตัดเชือก เสมอเรอัล โซเซียดัด สกอร์รวม 1 – 1 ก่อนเอาชนะดวลจุดโทษ

ผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นและช่วยพามายอร์ก้ามาถึงจุดนี้ คือ 3 หัวหอกประจำทีม อับดอน ปราตส์, ไคล์ ลาริน และเวดัต มูริกี อีกทั้งความเหนียวแน่นในเกมรับ ก็อาจสร้างปัญหาให้กับกองหน้าคู่แข่งได้เช่นกัน

ก่อนที่เรอัล มายอร์ก้า จะสุขสมหวังกับแชมป์โกปา เดล เรย์ ในปี 2003 พวกเขาเคยอกหักในเกมชิงดำรายการนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี 1991 แพ้แอตเลติโก้ มาดริด และอีกครั้งในปี 1998 แพ้บาร์เซโลน่า

ทีมดังจากหมู่เกาะแบลีแอริก ได้กลับสู่รอบชิงชนะเลิศโกปา เดล เรย์ อีกครั้ง นับจากหนล่าสุดที่ได้ฉลองโทรฟี่ใบนี้เมื่อ 21 ปีที่แล้ว ซึ่งฮาเวียร์ อากีร์เร่ เฮดโค้ชวัย 65 ปี ก็หวังที่จะพาทีมคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2

การพบกันในลาลีกา ซีซั่นนี้ เกมแรกที่บ้านของมายอร์ก้า เสมอกันแบบไม่มีประตู และอีกเกม บิลเบาเปิดบ้านถล่ม 4 – 0 จากผลงานของยูริ เบอชิเช่ คนเดียว 2 ประตู, กอร์ก้า กูรูเซต้า และ อิเคร์ มูเนียอิน

ส่วนสถิติเฮด-ทู-เฮด ในรายการโกปา เดล เรย์ เคยพบกันมาแล้ว 6 ครั้ง บิลเบาชนะ 3 ครั้ง มายอร์ก้า ชนะ 2 ครั้ง และเสมอกัน 1 ครั้ง แต่ในสุดสัปดาห์นี้ จะเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้ดวลกันในรอบชิงชนะเลิศ

แอธเลติก บิลเบา และ เรอัล มายอร์ก้า ต่างฝ่ายต่างห่างหายแชมป์โกปา เดล เรย์ มาหลายปี น่าติดตามว่า หลังจบเกมที่สำคัญที่สุดของทัวร์นาเมนท์นี้ การรอคอยที่ยาวนานของทีมใดจะสิ้นสุดลงก่อนกัน

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: