“บาร์เซโลน่า” เดินหน้าคืนฟอร์มเก่ง ไร้พ่าย 10 นัดติดต่อกัน
#SSxLaLiga | นับตั้งแต่ชาบี้ เอร์นานเดช ประกาศลาออกจากตำแหน่งกุนซือบาร์เซโลน่ามาเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน ทีมของเขาไม่แพ้ใครอีกเลย รวมถึงเป็น 1 ใน 8 ทีมที่ยังหลงเหลืออยู่ในถ้วยใหญ่สุดของยุโรป
เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บาร์เซโลน่า ลงสนามในศึกลาลีกา สเปน นัดที่ 29 ของซีซั่น โชว์ฟอร์มสุดยอด ด้วยการบุกไปถล่มแอตเลติโก้ มาดริด 3 – 0 หยุดสถิติไร้พ่ายเกมลีกในบ้านของ “ตราหมี” ไว้ที่ 25 นัด
ในเกมนี้ ชูเอา เฟลิกซ์ ยังคงเป็นตัวแสบของแอตเลติโก้เช่นเดียวกับเกมแรก ด้วยการทำประตูออกนำในครึ่งแรก ก่อนที่ในครึ่งหลัง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ จะยิงประตูที่ 13 ในลีก และปิดท้ายด้วยเฟอร์มิน โลเปซ
จากชัยชนะในนัดล่าสุด ทำให้บาร์ซ่า มีเพิ่มเป็น 64 คะแนน ทิ้งแอตฯ มาดริดห่างเป็น 9 แต้ม และตามหลังเรอัล มาดริด ทีมจ่าฝูงอยู่ 8 แต้ม เมื่อเหลืออีก 9 เกม ซึ่งมีโปรแกรมใหญ่อย่าง “เอล กลาซิโก้” รวมอยู่ด้วย
เบื้องหลังสถิติไร้พ่าย 10 นัดติดของบาร์ซ่า
หลังเกมที่บาร์เซโลน่า เปิดบ้านแพ้บียาร์เรอัล 3 – 5 เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ชาบี้ เอร์นานเดซ เฮดโค้ชวัย 44 ปี ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังจบฤดูกาลนี้ เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับผลงานที่น่าผิดหวัง
ตำนานมิดฟิลด์บาร์ซ่า แถลงว่า “ผมขอประกาศว่า หลังวันที่ 30 มิถุนายน ผมจะไม่ได้เป็นโค้ชของสโมสรอีกต่อไป ผมตัดสินใจเรื่องนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน ผมคิดว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสม สโมสรต้องการการเปลี่ยนแปลง”
แต่หลังจากคำประกาศวางมือในวันนั้น บาร์ซ่ากลับคืนสู่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ไร้พ่ายมาแล้ว 10 เกมติดต่อกันทุกรายการ (ชนะ 7 เสมอ 3) แถมยังผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นหนแรกในรอบ 4 ปี
นอกจากนี้ หากนับเฉพาะเกมลีก 8 นัดหลังสุดที่ไม่แพ้ใคร บาร์เซโลน่าคือทีมที่เก็บได้ 20 คะแนน (ชนะ 6 เสมอ 2) มากสุดเป็นอันดับที่ 1 เหนือกว่าคู่ปรับสำคัญอย่างเรอัล มาดริด ที่เก็บได้ 18 คะแนน (ชนะ 5 เสมอ 3)
เบื้องหลังช่วงเวลาไร้พ่าย 10 นัดติดของบาร์ซ่า เริ่มจากเกมรับที่ทำได้ดีขึ้น เก็บคลีนชีต 4 นัดติดต่อกันได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ รวมถึงการแจ้งเกิดของเปา คูบาร์ซี่ เซ็นเตอร์แบ็กวัยเพียง 17 ปี ที่ฉายแววเก่งขึ้นเรื่อย ๆ
ขณะที่เกมรุก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงชาวโปแลนด์วัย 35 ปี กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดอีกครั้ง โดยยิงได้ 5 ประตูในลาลีกา และอีก 2 ประตู ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่พบกับนาโปลีทั้ง 2 เกม
เลวานดอฟสกี้ ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมล่าสุดว่า “ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้ปรับการฝึกซ้อมให้เข้มข้นขึ้น เพื่อรับมือกับเกมสำคัญในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้ เราจะต่อสู้ให้ถึงที่สุดทั้งในลาลีกา และแชมเปี้ยนส์ ลีก”
บาร์เซโลน่าในช่วงเวลานี้ คือทีมที่กำลังมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม เกมรับและเกมรุกเริ่มลงตัวมากขึ้น พร้อมเผชิญหน้ากับศึกใหญ่ในเดือนเมษายน ทั้งปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในยูซีแอล และเรอัล มาดริด ในลาลีกา
อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่าต้องพยายามลดช่องว่างจากผู้นำให้ได้มากที่สุด และหากเอาชนะเรอัล มาดริด ในวันที่ 21 เมษายนนี้ได้ ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของสเปนเป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน
ที่มา: soccersuck