กิโรน่า : ม้ามืดที่สร้างเซอร์ไพรส์ไม่หยุด กับช่วงเวลาบินสูงในลาลีกา

#SSxLaLiga | สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด และแอตเลติโก้ มาดริด 3 ทีมยักษ์ใหญ่ของลาลีกา ต่างเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด ซึ่งพวกเขาถูกมองว่าเป็นตัวเต็งลำดับต้นๆ สำหรับการลุ้นคว้าแชมป์อยู่แล้ว

แต่เมื่อมาดูตารางคะแนนหลังผ่านไป 1 ใน 3 ของซีซั่นนี้ ปรากฏว่า กิโรน่า ทีมฟุตบอลที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมากนัก และไม่เคยคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาก่อน จะทำแต้มอยู่ในอันดับที่ 1 แบบเหนือความคาดหมาย

กิโรน่า สโมสรเล็กๆ จากแคว้นคาตาลุนญ่า ยังคงบินสูงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ หลังจากเกมล่าสุดที่ออกไปเยือนราโย บาเยกาโน่ โดนนำตั้งแต่ 5 นาทีแรก ก่อนจะกลับมาคว้าชัยด้วยสกอร์ 2 – 1

ชัยชนะที่บาเยกาส ทำให้กิโรน่า กลายเป็นทีมแรกที่นอกเหนือจากยักษ์ใหญ่อย่างบาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด และแอตเลติโก้ มาดริด ที่เก็บได้อย่างน้อย 34 แต้ม นำเป็นจ่าฝูงแต่เพียงผู้เดียว ด้วยสถิติชนะ 11 เสมอ 1 และแพ้ 1

นอกจากนี้ กิโรน่ายังเป็นทีมที่เก็บคะแนนจากการตามหลังคู่แข่งไปก่อนได้ถึง 16 แต้ม มากสุดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป โดยไล่ตีเสมอเรอัล โซเซียดัด จากนั้นแซงชนะเรอัล มายอร์ก้า, บียาร์เรอัล, อัลเมเรีย, โอซาซูน่า และราโย บาเยกาโน่

ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังผลงานสุดเซอร์ไพรส์ของกิโรน่า ต้องให้เครดิตมิเกล อังเคล ซานเชซ มูนญอซ กุนซือวัย 48 ปี ที่คุมทีมไปแล้ว 104 นัด มีสถิติชนะ 51 เสมอ 20 และแพ้ 33 (เปอร์เซ็นต์ชนะเท่ากับ 49 เปอร์เซ็นต์)

ถ้านับเฉพาะการคุมทีมในลีกสูงสุดของสเปน 51 เกม ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว จนถึงเกมล่าสุดที่ชนะราโย บาเยกาโน่ เมื่อวันเสาร์ มิเกล มูนญอซ มีสถิติชนะ 24 เสมอ 11 และแพ้ 16 (เปอร์เซ็นต์ชนะเท่ากับ 45 เปอร์เซ็นต์)

ก่อนหน้านี้ มิเกล มูนญอซ เคยเป็นผู้จัดการทีมที่พาราโย บาเยกาโน่ และอูเอสก้า ก้าวขึ้นสู่ลีกสูงสุดมาแล้ว แต่ตกชั้นในฤดูกาลต่อมาทั้ง 2 ทีม และเขาต้องยุติบทบาทกุนซือของแต่ละสโมสรก่อนจบฤดูกาล

เมื่อมิเกลเข้ามาคุมทีมกิโรน่าในฤดูกาลแรก เขาพาทีมจบอันดับที่ 6 ของตาราง และได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดด้วยการเอาชนะเพลย์ออฟ ส่วนในฤดูกาลที่สอง จบอันดับที่ 10 และติดท็อป 5 ทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุด

ปัจจัยสู่การเริ่มต้นที่สุดเซอร์ไพรส์

เหตุผลสำคัญที่ทำให้กิโรน่าเริ่มต้นฤดูกาลนี้ได้ดีเหลือเชื่อ มาจากตัวตนของเฮดโค้ชอย่างมิเกล มูนญอซ เมื่อครั้งสมัยเป็นนักเตะ เขาคือตำนานดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของราโย บาเยกาโน่ ที่ค้าแข้งนานกว่า 10 ปี

เมื่อมิเกลก้าวเข้าสู่อาชีพผู้จัดการทีม เขาก็ได้นำปรัชญาการเล่นเกมรุกมาปลูกฝังให้กับสโมสรที่ได้ทำงาน ซึ่งจาก 13 นัดแรกของลาลีกา ซีซั่นนี้ กิโรน่ายิงไปแล้ว 31 ประตู มากที่สุดเป็นอันดับ 1 เหนือกว่าทุกสโมสร

แม้ว่ากิโรน่าจะวางตำแหน่งตัวเองเป็นทีมที่กล้าเสี่ยง เล่นเกมรุกแบบไม่เกรงใจใคร ซึ่งมีโอกาสที่จะเสียประตูอยู่ตลอดเวลา แต่การโดนเจาะตาข่าย 16 ประตู น้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับน่าพอใจ

ก่อนที่ซีซั่นนี้จะเริ่มขึ้น กิโรน่าเสียนักเตะตัวหลักไปหลายคน เช่น โอริโอล โรเมอู, โรดริโก้ ริเกลเม่ รวมถึงวาเลนติน คาสเตลลานอส แต่การเซ็นสัญญาอาร์เต็ม โดฟบิค กองหน้าชาวยูเครน ก็สามารถทดแทนได้เป็นอย่างดี

โดย 31 ประตูที่กิโรน่ายิงได้ มาจากผู้เล่น 11 คน ในหลากหลายตำแหน่ง ช่วยกันทำประตู รวมถึงมีผู้เล่น 10 คนที่ทำแอสซิสต์ได้ แสดงให้เห็นถึงทีมเวิร์กที่ยอดเยี่ยมในเกมรุก ไม่ได้พึ่งพาแต่นักเตะกองหน้าในการจบสกอร์

ในเกมที่เปิดบ้านถล่มอัลเมเรีย 5 – 2 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ซึ่งเป็นการคุมทีมนัดที่ 100 นัดกับกิโรน่า มิเกล เปิดเผยว่า “ผมไม่กังวลเรื่องเกมรุก เราสามารถสร้างปัญหาให้กับคู่ต่อสู้ได้ เพราะเรามีนักเตะดีๆ มากมาย”

“เป้าหมายของเราคือการอยู่หัวตาราง ผมหวังว่าเราจะมองขึ้นไปสู่ด้านบนสุดได้ และผมอยากให้นักเตะภายในทีมเข้าใจว่า การเล่นเกมรุกทุกวันคือสิ่งที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ” กุนซือวัย 48 ปี กล่าวทิ้งท้าย

นี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริงสำหรับกิโรน่า แม้ว่าเป้าหมายแรกคือการอยู่รอดในลีกสูงสุดต่อไป แต่เมื่อมาได้ไกลถึงขั้นนี้แล้ว แฟนบอลของสโมสรก็มีสิทธิ์ที่จะฝันถึงเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นเช่นเดียวกัน

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: