แพ้ลูกเดียวแต่หมดสภาพ

แพ้ลูกเดียวแต่หมดสภาพ

ด้วยความที่ย้ายมาเตะเวลาแบบกลางสัปดาห์ในวันเสาร์ (03.00 น.) ทำให้การพ่ายแพ้ของ แมนฯยูฯ ยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดให้แฟนบอลตัวเองหนักเข้าไปอีก

บอลจบเข้านอนอีกทีก็ตี 5 เรียกว่าพระท่านตื่นจากการจำวัดตอนตี 4 คลาดกันชั่วโมงเดียว

สกอร์ที่ นิวคาสเซิ่ล เฉือน “ปีศาจแดง” หวิวๆ 1-0 แท้จริงแล้วหลอกตาคนที่ไม่ได้ดู

ฟอร์มในสนามพูดได้คำเดียวว่า “บัดซบ” สุดๆ!!

ก่อน “สาลิกา” ได้ประตูโทนในนาที 55 และโดยเฉพาะครึ่งแรกเป็นการบุกใส่ข้างเดียวแบบยับๆ

โดยที่ทีมเยือนไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากใดๆเนื่องจากถูก “เพรส” อย่างเอาเป็นเอาตาย

แนวรับโดนเพรสแล้วลนลานเสียบอลแทบจะทันที สะเทือนไปถึงตัวบนที่ได้บอลนับครั้งได้

โต้กลับไม่ได้ เก็บบอลไม่ได้ โชคดีเหลือหลายที่จบครึ่งแรกแบบ 0-0 โดยเฉพาะควรโดนตั้งแต่ฟรีคิกของ ทริปเปียร์ ที่บวกเสา 2 เกมติดกัน (นัดก่อนกับ เชลซี)

ในภาพรวมที่ว่าก็ส่วนนึงแต่ที่ทำให้มันแย่หนักเข้าไปอีกคือบรรดานักเตะที่อยู่ในสนามบางคน

มาร์คคัส แรชฟอร์ด ฟอร์มวิกฤติมาก ไม่ช่วยอะไรทีม รับก็ไม่เอา รุกก็ตาย เล่นราวกับไม่พกวิญญาณมาด้วย

มาร์กซิยาล แทบไม่มีส่วนร่วมใดๆ เช่นเดียวกับ “ขวัญใจแฟนผี” อย่าง แม็คโทมิเนย์ ที่เป็นชื่นต้นๆที่ถูกบูชายันต์ทั้งระหว่างเกมและหลังจบเกมในโลกโซเชี่ยล

ทั้งหมดทั้งมวลนี้แหละครับที่ทำให้เกมนี้เป็นหนึ่งในเกมที่ห่วยที่สุดของ เอริค เทน ฮาก และแพ้นัดที่ 6 จาก 14 เกมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปแล้ว

เกมรุกของ ยูไนเต็ด มาลืมตาอ้าปากประมาณ 10 นาทีสุดท้ายซึ่งเป็นช่วงที่ “สาลิกา” ถอนทัพลงมาเล่นเกมรับเพื่อรักษาสกอร์นำ

ถ้าผมจำไม่ผิดกราฟฟิคขึ้นโชว์ “ปีศาจแดง” ได้เตะมุมหนแรกนาที 81!!

เป็นโมเมนท์เวลาทอง 10 นาทีสุดท้าย+ทดเจ็บอีก 9 นาทีที่ไม่มีใครมาเพรสกวนใจ ได้บอลจากแดนตัวเองโล่งๆบุกใส่เป็นระลอก

และเกือบทำสนามแตกส่งบอลตุงตาข่ายในนาที 89 ถ้าลูกยิงของ แอนโทนี่ย์ ไม่ไปแฉลบ แม็คไกวร์ ที่ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า

หลังๆเวลาผมเขียนงานแล้วเห็นเมนท์ประมาณ “ให้เครดิต A ด้วยให้เครดิต B ด้วย” ไรงี้ บอกตามตรงหงุดหงิดตามง่ามตีนบอกไม่ถูก

ให้อ่ะมันให้อยู่แล้วแต่งานแต่ละชิ้นเราจะมีตัว “เอก” ไว้เล่าเป็นสตอรี่หลักซึ่งในที่นี้ “สาลิกา” เล่นในบ้านวิ่งกัดไม่ปล่อยใส่ทุกทีมอยู่แล้ว

ใครขวัญอ่อนรับมือกับพายุไม่ไหวก็โดนยิงไส้แตกกันไป (วิลล่า​ โดน 5, เปแอชเช 4, เชลซี 4)

แต่ประเด็นคือ “ปีศาจแดง” ไม่สามารถใช้ทีมเวิร์คหรือระบบในการแก้ปัญหาการเพรสของเจ้าบ้านได้เลย ถ้า “สาลิกา” ไม่ผ่อนเพื่อรักษาสกอร์เชื่อว่าไม่มีทางได้บุกอยู่ดี

ที่ต้องไม่ลืมด้วยคือ “สาลิกา” มีผู้เล่นเจ็บเยอะมาก นัดนี้ใส่ผู้รักษาประตูสำรอง 2 คน เกมที่แล้วยัดมา 3

เท่าที่ไล่ดูรายชื่อ injury players ที่เป็นผู้เล่นหลักๆนี่กดไป 9 ตัวเลยนะครับ จาคอป เมอร์ฟัย์, สตีฟ บอตแมน, โจ วิลล็อค, เอเลียต อันเดอร์สัน, ฌอน ลองสต๊าฟ,คัลลัม วิลสั้น, แมต ทาร์เก็ตต์, แดน เบิร์น และ ฮาร์วีย์ บารนส์ แถม ซานโดร โตนาลี่ ติดโทษแบนยาว

ครับ เอาเป็นว่า ยูไนเต็ด เล่นห่วยมันไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะมันห่วยมาหลายนัดแต่บังเอิญดัน “เข้าวิน” มา 3 นัดรวดก่อนส่งกลิ่นในเกมเสมอ กาลาตาซาราย ใน UCL

จนกระทั่งไหปลาร้าแตกที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค ด้วยฟอร์มที่ “เร้ดอาร์มี่” รับไม่ได้ เล่นเหมือนยอมรับสภาพกลายๆว่าเป็นทีมเล็กอยู่ใต้อาณัติ “สาลิกา”

เส้นทางอนาคตของ ETH จะยืดไปได้อีกนานแค่ไหนกับสภาพฟอร์มแบบนี้ น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคนับ…

สถิติ สถิติ สถิติ

แมนฯยูฯ ไม่ชนะเกมเยือนในลีกกับคู่แข่งที่ติด top 8 ของตารางนับตั้งแต่บุกโค่น สเปอร์ส ภายใต้การทำทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เมื่อเดือนตุลาคม 2021 โดยนับตั้งแต่เกมนั้นเป็นต้นมา “ปีศาจแดง” เสมอ 3 และแพ้ถึง 10 จาก 13 เกมเลยทีเดียว

นิวคาสเซิ่ล ชนะ แมนฯยูฯ 3 เกมติดในทุกรายการเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปี

“สาลิกา” ชนะ 7 จาก 8 เกมในการเล่นพรีเมียร์ลีกที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค ฤดูกาลนี้ซึ่งมากกว่าทุกๆทีม

อันโธนีย์ กอร์ดอน กลายเป็นนักเตะคนแรกของ นิวคาสเซิ่ล ที่ยิงประตู 4 เกมในบ้านติดต่อกัน (เฉพาะในพรีเมียร์ลีก) นับตั้งแต่ โจ วิลล็อค ทำไว้เมื่อปี 2021

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: