‘พอช’ ไม่อ้างจุดโทษ-รับ ‘หงส์’ เหนือกว่าทุกด้าน

เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่ กุนซือ เชลซี ไม่ขอใช้จังหวะทีมอาจได้ 2 จุดโทษเป็นข้ออ้าง พร้อมยอมรับสภาพเป็นรอง ลิเวอร์พูล ทุกด้านตั้งแต่จังหวะแรกของเกม จึงสมควรบุกพ่ายแบบราบคาบ 4-1

“สิงห์บลูส์” ลุ้นจุดโทษตั้งแต่ต้นในนาที 6 จังหวะ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ โดน เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ปะทะ แต่ทว่าผู้ตัดสินและ VAR พิจารณาแล้วไม่ให้

ช่วงครึ่งหลัง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู สำรองลงมายิงให้ เชลซี ตีไข่แตก 3-1 แล้วเกิดจังหวะปัญหาอีก เมื่อหอกฝรั่งเศส โดน ฟาน ไดจ์ค ปะทะใส่ด้านหลัง แต่ไม่ได้จุดโทษเช่นเคย

“นั่นไม่ใช่ข้ออ้าง ลิเวอร์พูล เล่นดีกว่าเราในทุกด้านตั้งแต่จังหวะแรกของเกม และสมควรเป็นผู้ชนะแล้ว” เฮดโค้ชอาร์เจนไตน์ กล่าวหลังโดนปิดกล่องอีกลูกที่ แอนฟิลด์

“ลิเวอร์พูล อยู่ในเกมนี้มากกว่าเรา ขณะที่เราเจอความยากลำบากในการประสานงาน และเสียบอลง่ายเกินไปมาก”

“ครึ่งหลังเรามีโอกาสตอนสกอร์ 2-0 ซึ่งหาก มูดรีค ยิงเข้าเราอาจได้ความมั่นใจและเล่นดีขึ้น หรือบางทีหากได้จุดโทษจังหวะ เอ็นคุนคู เกมอาจเปลี่ยน”

“จังหวะจุดโทษของ กัลลาเกอร์ ตอน 7 นาทีแรก อาจช่วยสร้างความมั่นใจ เมื่อเจอคู่แข่งระดับนี้ คุณต้องการให้จังหวะเหล่านั้นเข้าทางคุณ แต่วันนี้มันไม่เกิดขึ้นเลย”

“ยังไงก็ตาม ถึงยิงเข้า และจบด้วยผลเสมอได้ แต่เรายังผิดหวังอยู่ดี เพราะมันไม่ใช่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยม เมื่อเจอเกมลักษณะนี้ คุณจำเป็นต้องบอกว่า ลิเวอร์พูล ทำได้ดีมาก”

ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ เชลซี จะได้แก้ตัวกับ ลิเวอร์พูล ในนัดชิง คาราบาว คัพ ที่สนาม เวมบลี่ย์ และ ปอเช็ตติโน่ ยังมองในแง่ดี

“แน่นอนว่ามันจะไม่เหมือนวันนี้ เมื่อเราได้เล่นสนามกลาง ลูกทีมรู้สึกแบบนั้นเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องดีเพราะเราต้องการต่อสู้เพื่อชัยชนะ”

“แต่หากเราเล่นด้วยวิธีการแบบวันนี้ ผลก็จะออกมาเหมือนเดิม ดังนั้นเราต้องใช้เป็นบทเรียน และเตือนสติให้รู้ว่าเราต้องพัฒนาขึ้น”

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: